หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์ของการ"ยิ้ม"








1. มีเสน่ห์
หลายคนที่ไม่ได้หล่อไม่ได้สวย แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม ก็เหมือนกับว่าโลกทั้งโลกสว่างไสวไปกับรอยยิ้มของเขา หลายคนไม่รู้ตัวหรอกว่า ตัวเองยิ้มสวยแค่ไหน ต้องลองยิ้มกับกระจกและสำรวจดูบ้าง

2. มีมิตรมากกว่าศัตรู
รอยยิ้มที่จริงใจและถูกกาลเทศะ จะสร้างมิตรมากกว่าสร้างศัตรู ว่ากันว่า รอยยิ้มคือเครื่องมือกะเทาะกำแพงน้ำแข็ง หรือความเย็นชาแปลกหน้าที่ผู้คนมีต่อกันได้เป็นอย่างดี ใครจะรู้ รอยยิ้มเล็ก ๆ ที่ส่งให้กันในวันนี้ อาจนำพาเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตมาให้เราก็ได้

3. มีความสดชื่น
รอยยิ้มเป็นสัญลักษณ์ของอารมณ์ที่สดชื่น เหมือนกับความสดชื่นนั้นคือต้นไม้ และรอยยิ้มก็คือดอกไม้ อารมณ์และสภาพจิตของคนเรา ปลูกต้นอะไรไว้ก็ย่อมจะออกดอกเป็นสิ่งนั้น

4. มีกำลัง
หลายคนบอกว่า เมื่อเผชิญกับปัญหา ความทุกข์ หรือความยากลำบาก ให้ยิ้มเข้าไว้ จะทำให้มีเรี่ยวแรงกำลังที่จะฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เพราะว่ารอยยิ้ม คือกำลังของชีวิตอย่างหนึ่ง

5. มีมุมมองที่ดี
คนที่มีอุปนิสัยยิ้มแย้ม จะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี แม้ในเวลาที่มีปัญหา ก็จะยิ้มสู้ และพลิกปัญหาหรืออุปสรรคเหล่านั้นให้กลายเป็นโอกาสขึ้นมาได้

อ่านแล้วก็หันมายิ้มกันดีกว่า เพื่อสุขภาพจิตที่ดี.

วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

6 วิธีพัฒนาตนเองสู่ความเป็นเลิศ

6 วิธีพัฒนาตนเองสู่ความเป็นเลิศ




‘วัยรุ่น’ เป็นวัยที่มีศักยภาพในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากผู้ปกครองจะพยายามส่งเสริมด้านสติ

ปัญญา หรือ IQ ให้แก่วัยรุ่นแล้ว การพัฒนาด้าน EQ ก็เป็นสิ่งสำคัญ  ‘เกร็ดน่ารู้’ สัปดาห์นี้ มีวิธีพัฒนาตนเอง

ของวัยรุ่นสู่ความเป็นเลิศ มาฝากกัน


1.ตั้งเป้าหมาย เพราะชีวิตที่ประสบความสำเร็จ คือ ชีวิตที่มีเป้าหมาย ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ รวมทั้งการ

ใช้เวลาอย่างมีคุณค่า เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต้องการ

2.มีวินัย เป็นหลักปฏิบัติที่ช่วยให้ทำงานสำเร็จ เอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ได้ด้วยเวลาอันสั้น เป็นตัวกำหนดการ

เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับ และช่วยควบคุมตนเองได้ดี

3.สร้างความมั่นใจ ถือเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จและเป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิต ทั้งเรื่องเรียนและการ

ทำงาน นอกจากจะส่งผลให้เป็น คนกล้าแสดงออก และกล้าเผชิญกับเรื่องต่างๆ อย่างมั่นใจแล้ว ยังทำให้

บุคลิกภาพดีด้วย

4.รับฟังความคิดเห็น และคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นอย่างมีเหตุผล ขณะเดียวกันเมื่อพบกับปัญหา ควรหา

ทางออกที่เหมาะสม เพื่อสร้างความร่วมมือที่ดีในการทำงาน

5.มองโลกในแง่ดี มีความคิดเชิงบวก จะส่งผลให้สุขภาพจิต สุขภาพกายดี ความคิดโปร่งใส สุดท้ายจะ

ตามมาด้วยความสุขและความสำเร็จ

6.ใช้ชีวิตให้สมดุล ด้วยการเดินสายกลาง อย่าทุ่มเทชีวิตให้ด้านใดด้านหนึ่ง จนด้านอื่น ๆ ขาดการดูแล

 รู้จักใช้ชีวิตให้สมดุล เพื่อกระตุ้นให้ชีวิตมีความสุข มีความคิดสร้างสรรค์ และมีพลังในการเรียน การทำงาน

ต่อไป การพัฒนาด้านอารมณ์และจิตใจ ควบคู่ไปกับ IQ นั้น ถือเป็นกุญแจสำคัญ  ที่จะนำไปสู่การใช้

ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและนำไปสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง.

วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ทำอย่างไร ไม่ให้รักหมดโปรโมชัน

  

คำกล่าวที่ว่า "ความรักของผู้หญิงจะเริ่มต้นจากศูนย์ หนึ่ง สอง สาม... แต่ความรักของผู้ชายกลับเริ่มจากหนึ่งร้อยนับถอยหลังไปจนถึงศูนย์" แล้วหัวอกผู้หญิงอย่างเรา จะทำอย่างไรให้ความรักที่เขามีไม่ลดน้อยถอยลงวันนี้เรามีคำแนะนำดี ๆ มาบอกกัน

รักที่ตัวตนของเขา

          ในช่วงเริ่มต้นของความรัก คุณสาว ๆ อาจมองข้ามความเป็นตัวตนของเขาไป และเลือกมองแต่สิ่งดี ๆมองแต่สิ่งที่อยากมอง โดยลืมมองด้านที่ไม่ดีของเขา แต่อยากให้คุณเข้าใจว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบตามที่คุณต้องการอย่างตอนนี้เขาไว้ผมยาว คุณก็ยังบังคับให้เขาตัดผม โกนหนวด โกนเคราให้เรียบร้อยอย่างที่ชอบ หรืออย่างเขาเป็นคนแต่งตัวสบาย ๆ แต่คุณก็คิดว่าอยากให้เขาแต่งตัวดี ๆ เพื่อจะได้เข้าสังคมในกลุ่มเพื่อนของคุณได้ สิ่งเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่ย่อมส่งผลต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน ดังนั้น คุณต้องรักเขาอย่างที่เขาเป็น

อย่าเรียกร้องและแสดงความเป็นเจ้าของมากเกินไป


          ในระยะที่เพิ่งคบหากันอาจยังไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่คู่ที่คบกันมาเป็นระยะเวลานาน ไม่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแต่ส่วนมากฝ่ายหญิงมักเป็นฝ่ายเรียกร้องจากอีกฝ่ายมากขึ้น เช่น ต้องการให้เขาไปเดินช้อปปิ้งด้วยทุกครั้งทั้ง ๆ ที่เขาไม่ชอบไป หรือแม้แต่บังคับให้เขาต้องโทรศัพท์หาทุกคืนก่อนเข้านอน หรือคุณรู้สึกว่าคบกันนานแล้วแต่เขายังไม่คุยถึงเรื่องอนาคตร่วมกันสักที ฯลฯ บางครั้งเขาอาจจะทำตัวตามปกติเหมือนตั้งแต่เริ่มที่คบกันใหม่ ๆ แต่คุณเองก็เริ่มเรียกร้อง และแสดงความเป็นเจ้าของ รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเขามากเกินไป สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อความรัก และความสัมพันธ์ของพวกคุณ

ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลง

         
        จงเข้าใจในความเป็นจริงของโลกในข้อนี้ โดยเฉพาะเวลาเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป เช่น ช่วงแรก ๆ ที่เขาจีบคุณเขาอาจขับรถไปรับ-ส่งคุณที่บ้านทุกวัน แต่เมื่อคบกันไปนาน ๆก็ต้องเข้าใจว่าเขาอาจมีภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้ไม่มีเวลาดูแลเอาใจใส่คุณเหมือนเดิม หรืออย่างตอนที่เป็นแฟนกันใหม่ ๆ คุณกับเขาคุยโทรศัพท์ข้ามคืนกันแบบไม่รู้สึกเบื่อ แต่พอรู้จักและคุยกันบ่อย ๆ เขาอาจโทรศัพท์มาคุยกับคุณไม่นาน เพราะคุณกับเขามีการพูดคุยสนิทสนมกันจนรู้และเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ดีขึ้น ดังนั้น ต้องทำความเข้าใจว่าทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

ดูแลตัวเองเสมอ

          ต้องยอมรับว่าความสวยงาม สดใส ยิ้มแย้ม ทำให้รู้สึกสบายตา สบายใจ...คุณควรจำวันแรกที่คุณพบคบกับเขาให้ได้ ว่าวันนั้นคุณเตรียมความพร้อมทั้งเรื่องเสื้อผ้า หน้าผมไปเต็มที่ขนาดไหน และอย่าปล่อยให้ความประทับใจในวันนั้นกลายเป็นเพียงวันเวลาที่ผ่านเลย เพราะสาว ๆ ส่วนใหญ่พอมีความรักแล้วมักทำตัวเป็นของตาย ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจากสาวหน้าใส กลายเป็นสาวหน้าโทรม จากหุ่นเอวบางร่างน้อยกลายเป็นป้าหมี หรือจากเคยพิถีพิถันเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ ก็หันมาใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ สวมรองเท้าเตะทุกครั้ง แล้วก็เถียงว่า "ตัวตนจริง ๆ ของฉันเป็นแบบนี้" แต่คุณต้องเข้าใจว่าใคร ๆ ก็อยากเห็นภาพที่สวยงาม โดยเฉพาะแฟนหนุ่มของคุณที่ยังจำภาพวันแรกที่พบคุณได้ และเชื่อว่าเขาต้องอยากเห็นคุณดูดีตลอดไป

        ความ รักที่ไม่มีวันลดน้อยถอยลง ก็คือความรักที่เกิดขึ้นจากความ "พอดี" ของคนสองคน ทั้งนิสัย สถานะทางสังคม พื้นฐานครอบครัว และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณทั้งสองคนจะต้องมอบความรักและเติมเต็มความรักให้แก่กันจนลงตัว ไม่มีฝ่ายใดที่รักมากกว่าหรือน้อยกว่า หากทำได้เช่นนั้นรับรองว่าความรักของคุณไม่มีวันหมดโปรโมชั่นอย่างแน่นอน

วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

8 อารมณ์ด้านมืด ที่บ่อนทำลายชีวิตรัก

8 อารมณ์ด้านมืด ที่บ่อนทำลายชีวิตรัก



ราทุกคนต่างมีด้านของอารมณ์ที่ไร้เหตุผล และบ่อนทำลายตัวเอง และด้านมืดนี้อาจทำลายชีวิตคู่
ของคุณในแบบที่คุณไม่รู้ตัวก็ได้   และนี่คือลักษณะที่พบกันบ่อยที่สุด ซึ่งอาจส่งผลร้ายต่อสัมพันธภาพของคุณได้


1. คุณชอบนับแต้ม


          การแข่งขันสามารถทำให้ชีวิตรักกลายเป็นสนามรบอันเลวร้ายได้อย่างรวดเร็ว คุณจะเป็นผู้ชนะได้อย่างไร ถ้าต้องจ่ายด้วยราคาที่ทำให้คนที่คุณรักต้องเป็นผู้แพ้ สัมพันธภาพที่แข็งแกร่งต้องสร้างอยู่บนความเสียสละและความห่วงใยกัน ไม่ใช่ด้วยอำนาจและการควบคุม การแข่งขันอาจทำให้ความรื่นรมย์ ความมั่นใจ และความงอกงามหดหายไปจากสัมพันธภาพ


2. คุณชอบจับผิด

          ไม่มีอะไรผิดกับการวิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์หรือชี้แนะ เพื่อให้สัมพันธภาพดีขึ้น แต่บ่อยครั้งมันมักกลายพันธุ์เป็นเรื่องของการจับผิด ที่คุณหมกมุ่นอยู่กับข้อบกพร่องและความไม่สมบูรณ์แบบ แทนการหาคุณค่าในตัวคู่ของคุณ เลิกตามจิกเขาเสียที และคุณจะเห็นอะไรที่ดี ๆ ในตัวเขามากขึ้น


3. คุณต้องถูกเสมอ

          ถ้าคุณคิดเช่นนั้น ก็เท่ากับคุณพร้อมที่จะต่อสู้จนตัวตาย และจนกระทั่งสัมพันธภาพของคุณต้องสิ้นสุดลงไปด้วย


4. คุณชอบโจมตี

         เวลา เถียงกันทีไร คุณก็จะกลายเป็นนักฆ่าขึ้นมาทันที ด้วยน้ำเสียงและถ้อยคำอันเชือดเฉือน มันอาจได้ผลประโยชน์ในระยะสั้น แต่เป้าหมายของการโจมตีกันนี้ จะกลายเป็นความขมขื่นและขุ่นข้องหมองใจ และทำให้มันยากขึ้นที่จะแก้ไขผลเสียที่ตามมา


5. คุณไม่จริงใจ

          เพราะคุณขาดความกล้าที่จะตรงไปตรงมา ในสิ่งที่ทำให้เกิดความเจ็บปวดและปัญหา ในสัมพันธภาพของคุณคุณวิจารณ์คู่รักของคุณในเรื่องหนึ่ง ทั้งที่คุณไม่พอใจหรือหงุดหงิดใจในอีกเรื่องหนึ่งมากกว่า สิ่งที่เป็นจริงไม่เคยถูกเผยออกมา และสิ่งที่พูดอกมาก็ไม่เคยเป็นเรื่องจริง ประเด็นที่แท้จริงจะค่อยๆ ระเบิดออกมาในท้ายที่สุดในแบบที่เลวร้าย


6. คุณไม่เคยให้อภัย

          คุณเก็บกักตัวเองอยู่กับความเจ็บปวดและขมขื่น และพลังงานในแง่ลบก็อาจอัดแน่นอยู่ในทุกมุมของหัวใจ ถ้าคุณกลืนความขุ่นข่องหมองใจเอาไว้ และปฏิเสธที่จะให้อภัย คุณก็จะทำลายชีวิตทั้งของตัวเองและสัมพันธภาพของคุณ คุณไม่อาเจปลี่ยนอดีตได้ แต่คุณสามารถรับมือกับผลของความรู้สึก และความเจ็บปวดได้ด้วยการให้อภัยอย่างแท้จริง


7. คุณถมไม่เต็ม

          คุณดูจะไม่เคยได้รับความพึงพอใจ ความรัก ความใส่ใจมากพอหรือเปล่า คู่ของคุณจะหงุดหงิดที่ดูเหมือนจะไม่เคยเติมเต็มคุณได้เลย และความกระหายทีไม่เคยเต็มอิ่มจะทำให้คู่ของคุณไม่เคยได้หยุดพัก ปล่อยตัวเองจากความรู้สึกไม่เพียงพอ และหาหนทางอื่นที่จะรู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองเสียก่อน


8. คุณยอมแพ้

          เมื่อมีแต่เรื่องเลวร้ายล้อมรอบชีวิตของคุณ คุณอาจนึกหาทางออกไม่เจอ คุณจะสิ้นหวัง เหงาหงอย และเชื่อว่าคุณติดกับดัก จงเข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาแทนที่จะยอมแพ้

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

10 ข้อห้ามของผู้หญิง ที่ผู้ชายร้องยี้

ถ้าอยากเป็น แม่ของลูก ใครสักคนในอนาคต นี่คือ 10 ข้อห้ามที่คุณต้องรู้

 
1.ตามแฟชั่นจนไม่เป็นตัวของตัวเอง

      การที่พอจะรู้เรื่องแฟชั่นบ้างก็เป็นเรื่องที่น่ายกย่องดี แต่ถ้าเห็นเขาทำอะไรก็ตามจนท้ายที่สุดจบด้วยการเป็นเลดี้

กาก้ารับรองได้ว่าชายที่คุณน้องหมายตาจะผมร่วงกราว

 2.ดูเหมือนคนติดยา

      ก็เข้าใจว่าอยากเซอร์ อยากซูเปอร์โมเดล อยากมิลาน อยากชิค แต่ถ้าคุณน้องพ่นควันปุ๋ยๆเยี่ยงคนในวงการ 

อันนี้ก็จะไม่งามนะจ้ะ แถมไม่พออาจทำให้สุขภาพเสียป่วยเปลี้ยอัปลักษณ์อีกด้วย

 3.ทำผิวแทนปลอมๆ

        สาวไทยที่รู้ว่าไม่สามารถทำตัวให้เกี่ยวเนื่องไปกับกระแสเกาหลีได้ ก็อาจตัดช่องน้อยแต่พอตัวด้วยการอาบ

แดดไปด้วยหาสามีฝรั่งไปด้วย ก็ต้องขอชมเชยในการอยากนำเงินเข้าประเทศ แต่ไม่ได้แปลว่าผู้คนเขาจะชอบผิว

บ่มแดดด้วยโลชั่นปลอมๆนะจ๊ะ พยายามสวยด้วยชาติกำเนิดตัวเองจะดูเจริญกว่า

 4.รอยสัก

         การเป็นสาวเท่ห์มีรอยสักคูลๆก็โอสำหรับชายแนวเดียวกัน แต่ถ้าอยากเปิดตลาดให้กว้างกว่านี้ การสักเจาะ

หลากรูจะทำให้ชายบ้านๆขวัญผวาได้ คิดดูดีๆก่อนตัดสินใจนะ

 5.ลายเสือดาว

          ลึกๆแล้วผู้ชายก็อยากได้แฟนที่ดูเรียบร้อยหงุมหงิม ถึงปากจะบอกว่ารักในความเป็นตัวเอง แต่ท้ายที่สุดแล้ว

ผู้ชายก็ยังกดกะปิเพศหญิงดั่งเทียนไขที่ฉาบกลิ่นอายเคย เค็ม ลายสิงห์สาราสัตว์อาจจะดูเก๋ในวงการแฟชั่น 

แต่ในเรื่องความเป็นแม่ของลูก ต้องกดกะปิตัวเองไว้ให้มั่นอย่าให้ชายจับได้เชียว

6.ไม่ยอมโกนขนให้เรียบร้อย

        ถึงแม้ว่าจะป่วยหนักหรือขี้เกียจขนาดไหน แต่ผู้ชายก็หวังที่จะเห็นเราในสภาพร่างที่งดงามที่สุด เพราะฉะนั้นก็

อย่ากลายร่างเป็นชะนีมีขนให้เขาตกใจ ผู้ชายไม่ได้เป็นทาร์ซานทุกคนนะจ๊ะ

7.ไว้ผมสั้นมากๆ

           ผมสั้นอาจดูดีสำหรับคนบางคนอย่างเช่นวิคตอเรีย เบคแฮม หรือว่าก้อย รัชวิน แต่ถ้ารู้ว่าร่างที่สิงกับ

จิตวิญญาณที่อยากซอยสั้นไม่ได้ไปด้วยกัน อาจจบท้ายด้วยการเป็นเลสเบียนขับสิบล้อ ฟังดูไม่เซ็กซี่ใช่ไหมล่ะ 

ผู้ชายก็คิดแบบนั้นแหละ

 

8.บิ๊กอายส์

           ก็อยากตาโต ก็อยากขนตายาว ก็อยากสวย แต่ขอบอกว่าบรรทัดฐานในความงามของผู้ชายกับผู้หญิง

ไม่เท่ากัน อย่าคิดว่าความงามแบบคอสเพลย์จะมีชายที่ไหนเข้าใจ เก็บบิกอายส์ไว้ใส่กรี๊ดๆกับเพื่อนสาวดีกว่า

 9.ลิปสติกสีแดง

            ปัจจัยในการจะดูแย่กับลิปสติกสีแดงมีอยู่สามข้อ หนึ่งดูเหมือนโสเภณีถ้าแต่งไม่เป็น สองลิปสติกชอบ

ไปเลอะฟันหน้าโดยที่ไม่รู้ตัว สามผู้ชายไม่กล้าจูบเพราะกลัวว่าจะกลายเป็นละเลงหน้าเค้กใส่กัน.. จบข่าว

10.ชุดโป๊ๆ

           อันนี้ไม่ต้องอธิบายมาก แน่นอนว่าผู้ชายชอบ แต่ว่าไม่มีผู้ชายที่ไหนอยากให้แฟนตัวเองแต่งตัวโป๊ๆ